
![]()
เผย 9 เบื้องหลังขั้นตอนการผลิตไฟสตูดิโอ ZSYB ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน! ![]()
![]()

(1.)การตรวจสอบคุณภาพวัสดุ (Material Quality Check) เมื่อวัตถุดิบหรือส่วนประกอบต่าง ๆ ที่จะใช้ในการผลิตไฟถูกส่งเข้ามายังโรงงาน จะมีการตรวจสอบคุณภาพวัสดุเบื้องต้นในทันที โดยการสุ่มตรวจตามจำนวน และตามมาตรฐานที่ได้กำหนดไว้ หากวัสดุตรงตามสเปก หรือมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จะมีการบันทึกและดำเนินการคัดแยก ก่อนที่จะนำไปเก็บในสต๊อกวัตถุดิบ

(2.)การตรวจสอบความถูกต้องของวัสดุที่จะใช้ (Material Accuracy Check)
ก่อนเริ่มสายการผลิตของไฟแต่ละรุ่นในจำนวนหลักร้อยหรือหลักพันตัว จะมีการเบิกวัสดุตามจำนวน และตรวจสอบความถูกต้องของวัสดุที่เบิกมา ทั้งในด้านสเปกและจำนวน ก่อนเริ่มกระบวนการผลิตจริง

(3.)การตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนผลิตจริง (Accuracy Check Before Production Line)
จะมีการประกอบไฟตัวอย่างขึ้นมาก่อนหนึ่งชุด เพื่อนำไปทดสอบด้วยอุปกรณ์มาตรฐาน และนำรายงานผลลัพธ์ เช่น ค่าความสว่าง ค่ารังสี ความเที่ยงตรงของแสงสีขาว และค่าอุณหภูมิต่าง ๆ ส่งให้ผู้ออกแบบ วิศวกร QC และผู้จัดการฝ่ายผลิต อย่างน้อย 4 คน เพื่อลงนามรับรองความถูกต้องตามสเปกของไฟรุ่นนั้น ๆ ก่อนเริ่มการผลิตจริงในล็อตนั้น

(4.)การตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ระหว่างการผลิต (Accuracy Check During Production Line)
จะมีเจ้าหน้าที่ QC เดินตรวจสอบความถูกต้อง และความเรียบร้อยระหว่างกระบวนการผลิตและประกอบไฟสตูดิโอในแต่ละสายการผลิตของไฟแต่ละรุ่น เนื่องจากการผลิตไฟแต่ละตัวมีขั้นตอนที่ละเอียด มีส่วนประกอบจำนวนมาก และการประกอบที่ซับซ้อน ซึ่งต้องใช้ทั้งฝีมือและความประณีต หากพบความผิดปกติ จะมีการคัดแยกและแก้ไขทันที
ในช่วงท้ายของกระบวนการผลิต จะมีการทดสอบการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้าด้วยเครื่องมือเฉพาะ เพื่อให้มั่นใจว่าไฟทุกตัวไม่มีไฟรั่วหรือไฟช็อต ผู้ใช้งานไฟ ZSYB จึงสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจเต็มร้อย

(5.)การป้องกันไฟฟ้าสถิต (Electrostatic Protection)
พนักงานทุกคนที่ประกอบไฟสตูดิโอจะต้องสวมใส่สายรัดข้อมือ ESD เพื่อป้องกันไม่ให้ประจุไฟฟ้าสถิตจากร่างกายถ่ายเทเข้าสู่วงจรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจทำให้ส่วนประกอบภายใน เช่น IC, driver หรือเซ็นเซอร์ต่าง ๆ เสียหายโดยไม่สามารถมองเห็นได้
เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญมากในการผลิตไฟสตูดิโอ เพราะหากเกิดความเสียหายจากไฟฟ้าสถิตตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต อาจทำให้สินค้าเกิดปัญหาภายหลังโดยไม่ทราบสาเหตุ ZSYB จึงให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนการผลิตอย่างละเอียด เพื่อความเสถียรและคุณภาพที่ดีที่สุด

(6.)การทดสอบความทนทาน (Aging Testing)
หลังจากการประกอบและการผลิตเสร็จสิ้น จะนำไฟทุกตัวมาวางเรียงบนแผงและเปิดใช้งานที่ความสว่าง 100% เป็นเวลา 4 ถึง 8 ชั่วโมง ในห้องที่มีอุณหภูมิปกติ ไม่มีเครื่องปรับอากาศ มีเพียงพัดลมระบายอากาศในโรงงาน เพื่อทดสอบความทนทานและความสามารถในการใช้งานต่อเนื่อง แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย

(7.)การทดสอบความทนทานต่อแรงดันไฟฟ้า (Low-High Voltage Testing)
ไฟ ZSYB ที่ต้องเชื่อมต่อกับไฟบ้านทุกตัว จะต้องผ่านการทดสอบความทนทานต่อแรงดันไฟฟ้าที่ไม่เสถียร ตั้งแต่ 200 ถึง 240 โวลต์ ตามสเปกของแต่ละรุ่น โดยบางรุ่นอาจมีการทดสอบตั้งแต่ 110 ถึง 240 โวลต์ เพื่อให้มั่นใจว่าไฟสตูดิโอจะไม่เสียหายง่าย หากเกิดไฟกระชาก หรือมีแรงดันไฟฟ้าที่ไม่คงที่จากการใช้งานในสถานที่ต่าง ๆ

(8.)การตรวจสอบอุปกรณ์ในกล่อง (Final Package Check)
หลังจากบรรจุสินค้าและอุปกรณ์เสริมลงในกล่องแล้ว จะมีการตรวจสอบอีกครั้งโดยการชั่งน้ำหนัก หากน้ำหนักไม่ตรงตามที่กำหนด จะสามารถทราบได้ทันทีว่ามีการใส่อุปกรณ์ไม่ครบ และสามารถดำเนินการแก้ไขได้ในทันที

(9.)การทดสอบความทนทานของบรรจุภัณฑ์ (Drop Testing)
ทุกครั้งที่มีการออกแบบกล่องบรรจุสินค้าใหม่ หรือมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ จะต้องมีการทดสอบความแข็งแรงด้วยเครื่องมือดรอปเทสต์ตามมาตรฐาน โดยทดสอบทุกด้าน ทั้งแนวตั้ง แนวนอน และมุมต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าไฟสตูดิโอที่อยู่ภายในจะสามารถส่งถึงมือผู้ใช้งานในทุกประเทศได้อย่างปลอดภัย รองรับการขนส่งทุกรูปแบบ

Aiman Studio เป็นตัวแทนจำหน่ายไฟสตูดิโอ ZSYB เจ้าเดียวในประเทศไทยที่มี มอก. รับรองความปลอดภัย





















